สวัสดีค่ะ รีวิวนี้เป็นรีวิวที่เรได้เคยรวบรวมไว้เมื่อปีที่แล้วค่ะ
ที่รีวิวที่ดองไว้นานมากเพราะไฟล์ภาพหายไปกับคอมพิวเตอร์เครื่องเก่าที่พังไป
แต่ว่าไม่นานมานี้ เรได้เจอข้อมูลรูปที่สำรองเอาไว้ (กรี๊ดลั่นบ้าน)
จึงได้โอกาสเอามาเรียบเรียงความประทับใจมาลงในรีวิวครั้งนี้ค่ะ
รีวิวนี้เป็นรีวิวจากการไปใช้บริการเองที่โรงแรมดาราเทวี
ในมื้อSunday Brunch ห้องอาหาร Akaligoค่ะ
โดยเป้าหมายหลักในการไปเชียงใหม่ปีที่แล้วคือ
“การพาคุณชายไปฉลองวันเกิด และชมความงามของโรงแรมดาราเทวี”
ซึ่งโรงแรมดาราเทวีจะมีความงดงาม และห้องอาหารอกาลิโกจะน่าสนใจแค่ไหน เชิญรับชมกันได้เลยค่ะ
เริ่มจาก การไปเยี่ยมชมโรงแรมดาราเทวีเมื่อปีที่แล้วไม่ใช่ครั้งแรกของเรค่ะ
2ปีก่อนหน้านี้ เรเคยไปมาเที่ยวเชียงใหม่เพื่อบุฟเฟ่ต์ของหวานที่กาสะลอง
(คือมากินเป็นหลักว่างั้นเถอะ)
หลังจานทานแล้ว ได้เดินเที่ยวชมรอบนอกโรงแรมแล้วประทับใจกับรายละเอียดของที่นี้มากค่ะ
จนตั้งเป้าหมายว่า “วันเกิดคุณชายคราวหน้าต้องพามาที่นี้ให้ได้”
ทำให้เกิดทริปมาเที่ยวเชียงใหม่ในวันเกิดคุณชายปีที่ผ่านมาค่ะ
และในช่วงก่อนของทางโรงแรมดาราเทวีนั้น
เคยมีการลงทะเบียนนักท่องเที่ยวในการเที่ยวชมโรงแรมด้วยค่ะ
บอกเลยว่า หากทางโรงแรมเปิดลงทะเบียนให้เที่ยวชมอีกละก็
“ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวงค่ะ”
ทางโรงแรมลงทะเบียนเข้าชมฟรีนะ ซึ่งบอกเลยว่าสนุกมากกกกกกก
(จริงๆหากเสียค่าเข้าชมเราก็ยินดีนะเพราะส่วนตัวชอบข้อมูลศิลปะและประวัติศาสตร์)
เพราะที่นี้ เสมือนเมืองโบราณที่ทำการย่อส่วนเอาไว้แบบเก็บรายละเอียดได้ดีมากๆ
มีเรื่องราว ที่มาที่ไป และรายละเอียดน่าค้นหาค่ะ
ไม่ว่าจะด้านนอกคูเมือง สะพาน กาดนอกประตูเมือง ทานเข้าเมือง หอจุมเงิน
โรงละครนางไม้ หอพระ ลานประจำเมือง บ้านต่างๆ มีแม้กระทั้ง…นาข้าว….
ที่สำคัญของหลายๆชิ้นมีอายุเก่าแก่มากทีเดียวค่ะ แค่ดูก็มีความสุขแล้ว
ประทับใจในความงามและอายุของต่างๆที่จัดแสดงมากค่ะ
และหากใครไปพักในดาราเทวี
กระซิบเบาๆว่า “ทุกๆอาคารที่ของดาราเทวีมีรูปนกยุงซ่อนอยู่ค่ะ”
ลองแอบดูดีๆจะมีรูปนกยุงในสไตล์ที่เข้ากับการตกแต่งอาคารนั้นๆซ่อนอยู่ด้วยนะจ๊ะ
ปีที่แล้วในการเดินชมเสียดายมีเวลาจำกัดเนื่องจากจองซันเดย์บรันซ์เอาไว้
ปีนี้วางแผนจะกลับไปใหม่ คราวนี้เรจะตามถ่ายรูปนกยุงในดาราจนครบให้ได้เลย!!!
เห็นนกยุงในภาพไหมเอ่ย > <
และทุกครั้งที่ไป หากมีโอกาสจะแวะเข้าไปสักการะพระองค์นี้ค่ะ
คือครั้งแรกที่เคยไปดาราเทวี บริเวณหน้าหอพระ เค้ามีกาดม่วน
มีการจัดสาธิตป่ามไข่ ขนมและน้ำให้นักท่องเที่ยวแวะชิมด้วยค่ะ
ที่สำคัญ เค้า ผ้าซิ่นให้เปลี่ยน ดอกไม้และธูปสำหรับเข้าไปสักการะหอพระด้านในด้วย!!
แม้เรจำชื่อพระองค์นี้ไม่ได้แต่ ทุกครั้งที่มา จะแวะมาที่นี้ค่ะ
(หากโรงแรมเปิดส่วนนี้อ่ะนะ)
อ่ะ พูดถึงความประทับใจของโรงแรมกันแล้ว ก็ไปชิมซันเดย์บรันซ์ของทางโรงแรมกันบ้างค่ะ
โดยซันเดย์บรันซ์ของที่นี้จะเริ่มในช่วงเที่ยง ที่ห้องอาหาร อกาลิโก
เป็นบุฟเฟ่ต์อาหารนานาชาติของทางโรงแรมค่ะ
ได้ทราบมาว่า ห้องอาหาร อกาลิโก นั้นแปลว่า “ไม่ประกอบด้วยกาล”
….ซึ่งความหมายที่ทางโรงแรมสื่อคือ “ทองคำ”ค่ะ
ดังนั้นในห้องอาหารอกาลอโกจะเป็นธีมสีทองล่ะ (จำผู้บรรยายมาอีกที)
และนี้คือโต๊ะที่จองไว้ของเรและคุณชายในวันนี้ค่ะ
ไม่ติดว่าห้องอาหารเร็นคิวยาวมากๆข้ามเดือน เรคงจะทานทั้งอกาลิโกและเร็นค่ะ
แล้วก็มาสำรวจไลน์อาหารกันบ้าง ที่นี้ไลน์อาหารไม่ใหญ่มากค่ะ จัดมาอย่างละนิดละหน่อยและหลายชนิด
สรุปจากที่เดินชมได้ว่า
ในส่วนของ appetizer จะมีทั้งแบบอาหารไทย ฟิวชั่น และอาหารฝรั่ง
(ในโซนตรงนั้นมีพวกออเดิร์ฟเหนือ น้ำพริกอ่อง น้ำพริกหนุ่ม ไส้อั่ว อร่อยอยู่นะแอบแทะมา)
ไลน์อาหารญี่ปุ่น (ปลาดิบสดมาก มีโฮตาเตะ ฮามาจิ แซลม่อน ทูน่าและฟินที่ ซูชิฟัวกราส์ค่ะ)
ซีฟู้ดออนไอซ์ คุณภาพดีค่ะ ปูไม่เค็ม กุ้งสด ปูม้าตอนเราไปสดใช้ได้
น้ำจิ้มโอเคมาตรฐานทั่วไป(ไม่เผ็ดเท่าไหร่) และใกล้ๆกันมีหอยนางรมแบบแกะสดด้วยค่ะ
อาหารฝรั่ง เน้นความสด ส่วนใหญ่ปรุงมาดีค่ะ เว้นรีซอตโต้ข้าวเละไปหน่อย
ทางด้านระเบียงจะเป็นGrill Station มีพวกเนื้อและไก่อบ
อาหารจีน อยู่ที่ระเบียงเช่นกัน มีเป็ดย่างหมูแดงขนมจีบซาลาเปา
ซุป และอื่นๆอีกนิดหน่อยค่ะ
และพีคสุดคือ ของหวานของที่นี้จัดเต็มน้อยกว่าไลน์กาสะลองก็จริงแต่ไม่ขี้เหล่ค่ะ
มาการองหลายรส(น้องพนักงานบอกว่าสลับๆกันเอามาเติม) ขนมอื่นๆ ไอศกรีม
มีชูเฟล่ช็อกโกแล็ต และเครปซูเซท แบบทำสดด้วยค่ะ
พวกอาหารไทยปรุงสำเร็จแบบใส่หม้อที่นี้แทบไม่มีนะ
มีแกงไทยไว้ประดับฉาก 1 รายการ พร้อมข้าวผัด… รสชาติอันนี้ไม่ได้ชิมล่ะจ้า
ส่วนตัวเรชอบมากตรงความสดของอาหารนี้แหละ…..
รสชาติก็โอเคนะแล้วแต่คนชอบแต่จะปรุงไม่จัดมาก
ไลน์ไม่ใหญ่แต่คุณภาพความสดถือว่าดีงามตามท้องเรื่อง
และในซันเดย์บรันซ์รวมน้ำผลไม้ไว้แล้วค่ะ….น้ำส้ม น้ำแตงโม จัดไปตามชอบ
อันนี้คือที่เรตัดมาชิมอย่าละนิดละหน่อยค่ะ
ชอบซีฟู้ดออนไอซ์ที่นี้ ปูไม่เค็มค่ะ ความสดดีงาม ปูม้าใช้ได้ แต่น้ำจิ้มจะไม่แซ่บมาก
รีซอตโต้……รสอ่ะดีจ้า แต่ข้าวเละไป ชอบแบบข้าวมีเนื้อสัมผัสหนึบๆมากกว่า
อันนี้ข้าวนิ่มเป็นข้าวต้มเลย …. รอบหน้าหากทานอีกจะลองอีกทีนะ
น้ำผลไม้ต่างๆรวมในบุฟเฟ่ต์ค่ะ
ฟัวกราส์ ทอดมาโอเค ซอสอร่อยดี ข้างนอกกรอบๆหน่อยข้างในครีมๆ
คุณชายฟาดฟัวกราส์ทั้งแบบนี้และแบบซูชิไปเยอะมากๆค่ะ
ไลน์อาหารญี่ปุ่น ของห้องอาหารนี้ก็เด่นไม่แพ้กันค่ะ (ก็มาจากเร็นนี้นา)
ทางด้านของกริลล์ค่ะ เนื้อเรไม่ได้ชิม ไส้กรอกโอเคทั่วไป แกะไม่สาบ โอเคจ้า
……โฮตาเตะ…เพลินมากกกกกก หวานในปากฟินจุงเบย
ฟัวกราส์ค่ะ …..อย่ากินเยอะนะ คอเลสเตอรอลสูงมาก!!!
หรือจะเอาฮามาจิดี
ปูก็โอเคนะคะ ตอนเราไปปูไม่เค็มคือดีงาม
และอีกเมนูที่คุณชายพีคมากๆคือ ซูชิฟัวกราส์ค่ะ
ฟัวกราส์เผามากรอบนอกนิดๆ ทานกับข้าวเปรี้ยว และซอสเข้ากันดีกลิ่นฟัวกราส์ไม่แรงมาก
………..เป็นอีกรายการที่หากมาแนะนำว่าควรสั่งค่ะ ความหนาของฟัวกราส์ฟินจริงๆ
ส่วนอันนี้ของขวัญที่เรสั่งให้คุณชายค่ะ
พอดีประสานงานโรงแรมไว้ให้ช่วยเลือกมาการองใส่กล่องเป็นของขวัญให้คุณชาย
เพราะว่านางชอบมาการองมากค่ะ กล่องนี้คือฟินนางเลยทีเดียว
ดูความฟินนางได้เลยค่ะ…..ออกหน้าออกตามาก
ถึงแบบนั้น คุณชายก็ฟาดมาการองไปเป็นสิบชิ้นคร๊า!!!!!
ที่เห็นทั้งหมดคือฝีมือนางเป็นส่วนใหญ่นี้แหละ
มีเครทซูเซทด้วยค่ะ (แนะนำเดินไปโปะไอติมเพิ่ม)
ช็อกโกแล็ตชูเฟล่ ใช้เวลานิดนึงในการอบ อันนี้ก็โอเค
ตบท้ายมื้อนี้ด้วยชาร้อน…..พร้อมมาการองอีกซักชิ้น2ชิ้น
และสำหรับบุฟเฟ่ต์ 2ท่าน ในมื้อซันเดย์บรันซ์ ห้องอาหารอกาลิโก มีค่าเสียหายดังนี้ค่ะ
(ไม่รวมบิลมาการองกล่องที่เป็นของขวัญคุณชายนะคะ อันนั้น500ปลายๆ นั้นจ่ายแยกไปจ้า)
และทั้งหมดนี้ เป็นประสบการณ์การเยี่ยมชม พร้อมพาคุณชายไปทานข้าวที่ห้องอาหารอกาลิโกมื้อซันเดย์บรันซ์
โรงแรมดาราเทวี @ เชียงใหม่ค่ะ
แม้รีวิวนี้จะดองไว้นานไปหน่อย(ไม่ตั้งใจจะดองจริงๆน้า) แต่เรคาดว่า จากข้อมูลนี้น่าจะพอมีประโยชน์แก่ทุกท่าน
ที่สนใจอยากจะลองไปใช้บริการที่ดาราเทวีแห่งนี้ค่ะ
ก็หวังว่ารีวิวนี้คงจะพอเป็นประโยชน์แก่ทุกท่านได้ไม่มากก็น้อยนะคะ
ไว้พบกันใหม่ครั้งหน้า วันนี้ สวัสดีค่ะ